- บทสัมภาษณ์นี้แปลมาจาก GQ Japan วันที่ 24 กันยายน 2021
- โฆษณาตัวใหม่ของน้ำหอมบุรุษของดิออร์ “โซวาจ” เสร็จสมบูรณ์แล้ว จอห์นนี่ เดปป์ ซึ่งเป็นไอคอนมาตั้งแต่ปี 2015 ตอนที่โซวาจเปิดตัวก็กลับมาด้วย พร้อมทั้งฌอห์ง บาสทิสท์ มอนดิโน่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการทำมิวสิก วีดีโอให้กับร็อกสตาร์หลายคนรวมถึงมาดอนน่าก็กลับมากำกับอีกด้วย
- กลิ่น “โซวาจ” ซึ่งแปลว่าป่าในภาษาฝรั่งเศส ถูกบันดาลขึ้นโดยนักปรุงน้ำหอมของดิออร์ ฟรองซัว เดอมาชี่ กลิ่นอันสนชื่นหอมทะลุผ่านช่องว่างของความห้าวหาญและความสง่างาม
- เอกลักษณ์และเสน่ห์ของ “โซวาจ” ถ่ายทอดออกมาผ่านโฆษณาได้อย่างไร? ฉันตั้งคำถามกับจอห์นนี่ เดปป์
อะไรคือแรงดึงดูดหลักของน้ำหอม?
เล่าให้ฟังได้ไหมว่าฌอห์ง บาสทิสท์ มอนดิโนที่คุณได้ร่วมงานด้วยในครั้งนี้เป็นคนยังไง
ผมว่าเขาเป็นคนมหัศจรรย์ และรู้สึกว่าเราเจอกันช้าไป ผมอยากเจอเขาเร็วกว่านี้สัก 30 ปี
ฌอห์ง บาสทิสท์ เป็นสายผลิตแบบไหน
เขาไม่ได้แค่ถือกล้องแล้วถ่ายทอดเรื่องราวในหัวออกมาง่าย ๆ แบบนั้น การจะเข้าใจจินตนาการของเขาได้ คุณต้องเชื่อใจเขาและสนุกไปกับมัน และปล่อยตัวไปกับโลกทัศน์นั้น
ทำไมฌอห์ง บาสทิสท์เป็นศิลปินที่สร้างชื่อจากความสำเร็จด้านการค้า
ผมคิดว่าเขาสร้างสรรค์งานที่ดีได้ด้วยการพูดตรง ๆ เลยว่า “ผมไม่สนใจทำหนังหรอก ผมอยากทำมิวสิก วิดีโอแบบนี้ อยากถ่ายรูปแบบนี้” เขาสร้างชื่อขึ้นมาจากงานประเภทวิดีโอสั้น ๆ และภาพถ่ายสำหรับโฆษณาและมิวสิก วิดีโอ และถึงแม้ความสำเร็จเขาจะเกี่ยวกับการค้า แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในการใส่ความเป็นศิลปะเข้าไปในนั้นตลอดด้วย ดังนั้น อาจฟังดูย้อนแย้ง แต่เขาก็อยู่ในโลกของการค้าเพื่อที่จะยังคงความเป็นศิลปินของเขาไว้
ให้คะแนนฌอห์ง บาสทิสท์ในฐานะผู้กำกับเท่าไหร่
เขาปฏิบัติต่อนักแสดงอย่างสมบูรณ์แบบ ค่อย ๆ เข้าหาคุณเหมือนคุณเป็นเพื่อนสนิทของเขา เป็นคนเปิดกว้างและเป็นผู้กำกับที่ทำงานด้วยสนุกมาก ๆ
ก่อนจะได้ฟังเรื่องราวของ “โซวาจ” ช่วยเล่าเรื่องกลิ่นแรกที่คุณจำได้ในความทรงจำของคุณให้ฟังหน่อย
ผมเกิดในเคนทักกี้ ซึ่งคนเรียกว่า “รัฐแห่งบลูกราซ” ดังนั้นกลิ่นที่อยู่ในความทรงจำผมมาอย่างยาวนานที่สุดก็มักจะเป็นกลิ่นที่เกี่ยวกับต้นไม้ใบหญ้า แม้แต่ตอนนี้ ถ้าผมไปแถบชนบท การได้กลิ่นดอกไม้ก็ทำให้นึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก
กลิ่นและความทรงจำมักจะเกี่ยวโยงกัน
กลิ่นเป็นแรงขับที่ทำให้คุณนึกถึงเรื่องราวภายในใจคุณ กลิ่นทำให้เรานึกถึงใครสักคน สถานที่สักที่และของบางสิ่ง
น้ำหอมมีเสน่ห์ต่อคุณแบบไหน
ตอนที่ผมเริ่มใช้น้ำหอมคือตอนอายุ 16-17 ปี ผมเล่นกีต้าร์ในผับ พอเล่นเสร็จผมก็จะฉีดน้ำหอมโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ใช้อยู่มันคือกลิ่นอะไร แม้แต่ตอนนี้ พอหลับตาลง กลิ่นบางกลิ่นก็ทำให้ผมเห็นภาพตัวเองในห้องพักหลังเวที ผมที่อายุ 17 รออยู่หลังเวที ผมว่าเสน่ห์หลัก ๆ ของน้ำหอมก็คือมันทำให้ความรู้สึกบางอย่างกลับมา
เล่าความประทับใจต่อโซวาจของคุณให้เราฟังหน่อย
ผมรู้สึกเหมือนมันเป็นกลิ่นที่สร้างมาเพื่อผมเลย แม้ว่าจริง ๆ แล้วมันจะไม่ใช่กลิ่นที่สร้างมาเพื่อผมคนเดียวก็เถอะ มันเป็นน้ำหอมที่เหมาะสมกับผมทุกประการ และอาจเพราะว่าส่วนผสมทุกอย่างนั้นอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ผมเลยรู้สึกว่ามันเป็นกลิ่นสำหรับผม ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับน้ำหอมมาก่อนเลยนะ
ความเคารพรักต่อมือกีต้าร์ยอดอัจฉริยะ
เล่าเรื่องดนตรีให้เราฟังหน่อย ในโฆษณานี้ เพลง Wild Thing ถูกเอามาประกอบ
เพลง wild thing เป็นเหมือนหมุดหมายของเพลงร็อกซึ่งถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่โดยนักดนตรีหลายคนจนนับครั้งไม่ถ้วน ผมคิดว่าเพลงนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะรวมเอาวิสัยทัศน์ของดิออร์กับฌอห์ง บาสทิสท์ เข้าด้วยกัน เพลงนี้เป็นเพลงของวงที่ชื่อว่า the Troggs แล้วมีเวอร์ชั่นที่คัฟเวอร์โดยจีมี่ เฮนดริกซ์ซึ่งผมเชื่อว่ากีต้าร์ที่แสนมีเอกลักษณ์ของเขาจะดึงเอาชีวิตออกมาจากบทเพลงนี้ได้ในความรู้สึกที่จริงแท้ที่สุด
ก็เลยเลือกใช้เวอร์ชั่นของจีมี่ เฮนดริกซ์
ใช่ครับ แล้วพอผมนึกถึงมือกีต้าร์ที่สามารถแสดงความเป็นจีมี่ออกมาได้ ผมก็นึกได้แค่เจฟฟ์ เบ็กต่อให้มองหาทั้งโลกแล้วก็ตาม นั่นเป็นเพราะจีมี่ที่ย้ายจากสหรัฐฯ ไปลอนดอนก่อนจะเดบิวท์ก็เรียนรู้การเล่นกีต้าร์มาจากเจฟฟ์เยอะมาก ทั้งสองคนซึ่งท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นเพื่อนกันต่างก็ได้แรงบันดาลใจมาจากกันและกัน พูดง่าย ๆ คือ Wild Things ที่เล่นโดยจีมี่ เฮนดริกซ์เป็นสิ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากเจฟฟ์ เบ็ก
คุณคาดหวังให้เจฟฟ์ เบ็กก์ซึ่งเป็นเพื่อนคุณ เล่นเพลงนี้ออกมาแบบไหน
ฌอห์ง บาสทิสท์ต้องการบรรยากาศของความบ้าคลั่งและคาดเดาไม่ได้แบบจีมี่ เฮนดริกซ์ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเจฟฟ์จะต้องเล่นเหมือนจีมี่เป๊ะ ๆ แต่คือการแสดงออกถึงความรักและเคารพต่อจีมี่ เฮนดริกซ์ เหมือนเป็นภารกิจในการทักทายและส่งความรักไปให้เพื่อนเก่า และไม่ต้องมีซาวด์อะไรมากมาย ไม่มีกลอง ไม่มีเบส มีแค่เสียงกีต้าร์ของเจฟฟ์ มันกลายเป็นเพลงง่าย ๆ แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะเคยมีผลงานไหนที่ใกล้กับจีมี่และแสดงออกถึงความเคารพได้เท่านี้
การแสดงและดนตรีมีอะไรที่เหมือนกัน
ถ้าดูโฆษณานี้ก็จะเห็นได้ว่า ดนตรีนั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคุณ
ดนตรีเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับผมตั้งแต่ผมเริ่มเล่นกีต้าร์ตอนอายุ 12 ดนตรีกับกลิ่นนั้นคล้ายคลึงกันมากและมีพลังพาเราย้อนเวลากลับไป การได้ฟังเซิร์จ เกนสเบิร์กจากยุค 1960s นั้นทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างและพาเรากลับไปในยุคนั้น แก่นสารของการแสดงเองก็เหมือนกัน
คุณอยากจะทำแต่งานเพลงมาโดยตลอดรึเปล่า
ผมเริ่มรับเล่นดนตรีตามงานปาร์ตี้ในสวนหลังบ้านตอนอายุ 12 เล่นในผับพังก์ร็อกแถวไมอามี่ บีชตอนอายุ 13 และมันยากมากที่จะเลิกงานตอนตี 4 แล้วไปโรงเรียนต่อ ผมเลยลาออกตอนอายุ 15 แต่ผมไม่อยากทำอะไรเลยนอกจากเป็นมือกีต้าร์ แล้วผมก็ไม่ได้สนใจในการแสดงเลยตอนนั้น ผมเริ่มแสดงหนังเพราะมันจำเป็น เมื่อได้แสดงหนังแล้วผมก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าไปอีกพักใหญ่ ตอนนั้นยังไม่ล้มเลิกการอยากเป็นนักดนตรีนะครับ แต่ตอนนี้ก็คิดว่าจะไม่ทำดนตรีเป็นงานหลักเพราะผมไม่อยากเป็นพวกที่ทำอะไรแค่เพราะคิดว่าชื่อขายได้
ความสัมพันธ์ระหว่างการแสดงกับดนตรีคืออะไร
กับดนตรี ความสัมพันธ์มันเกิดขึ้นได้ในทันที คุณจะมีความสัมพันธ์ทางตรงกับผู้ฟังที่ฟังสารที่คุณพยายามส่งไป และเหตุการณ์เดิมจะไม่เกิดขึ้นซ้ำ การแสดงก็เหมือนกัน สิ่งที่ผมกำลังมองหาคือไอเดียในการแสดง ดันขีดจำกัดของตัวเองและก้าวข้ามขีดจำกัดนั้นให้ได้ และลองพยายามดู ก็เหมือนกับฟรองซัว เดอมาชี่ ที่เป็นคนปรุงน้ำหอมทำ เขาพยายามทลายขอบเขตทำภารกิจที่เป็นเหมือนการผจญภัยนี้ให้สำเร็จ แม้จะมีความเสี่ยงแต่เขาก็รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่ เขาแสดงสิ่งที่เขาต้องการออกมาอย่างตรงไปตรงมา
โฆษณานี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากงานของเขา
โซวาจ มีเอกลักษณ์มากสำหรับผมและเป็นกลิ่นที่น่าหลงใหลที่สุดในโลกเลย เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวบทใหม่ของโซวาจ โซวาจไม่มีขีดจำกัด ผมว่าไม่มีใครเดาได้หรอกว่าเรื่องราวนี้มันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน